
เจ้าของร้านทอง ใส่ทองเส้นเท่าหนวดกุ้งแต่ลูกจ้าง (บางคน)ทั้งหมดที่มีในชีวิต ขนมาผูกไว้ที่แขนแขวนที่คอหมด
เจ้าของโชว์รูมรถ ขับมอไซค์คันเก่าไปซื้อ ส้มตำหน้าปากซอย
แต่ลูกจ้าง (บางคน)จะทำทุกวิถีทางเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่ามีรถหรูขับ
เจ้าของกิจการ ตื่นตี 5 มาเปิดร้าน ทำงานเก็บร้าน นอนอีกที 4-5 ทุ่ม
แต่ลูกจ้าง (บางคน)ตื่น 8 โมงเลิก 5 โมงเย็นบอก “ลำบาก”
เจ้าของเขียงหมู ขายได้วันละหมื่น เก็บทุกบาทอย่างดีใส่ไว้ตู้เซฟ สิ้นเดือนรีบเอาเข้าแบงค์
แต่ลูกจ้าง (บางคน) มีเงินแสนก้อนเดียวในชีวิตเอามาวางเรียง
ถ่ายรูปโช ว์ลงโซเชี่ยล ให้โลก (โจร) รู้..ว่ากูมี
เฮียขายส่งอะไหล่รถทั่วจังหวัด มีกิจการหลายสิบล้าน กินข้าวแกงข้างบ้ า น กับกาแฟ 7-11
แต่ลูกจ้าง (บางคน) ของอาเฮียซื้อกาแฟแก้วละสองร้อย เพื่อถ่ายรูปอัพลงเฟส
แล้วมาบ่นกับเฮียว่า ปลายเดือนไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ขอเบิกล่วงหน้า
เศรษฐีร้านขายส่ง สอนให้ลูกทุกคนทำงานหารายได้พิเศษเพื่อมีเงินเก็บ ไปซื้อของฟุ่มเฟือยที่อยากได้เอง
ถัดไปข้างบ้านส่งลูกเรียนกรุงเทพ ลูกบ่นอยากได้โทรศัพท์ใหม่รีบรูดบัตรซื้อให้
เจ๊ร้านขายส่งปลาทะเล ในตลาดแห่งนึง ขายได้วันเป็นล้าน เจ้าของใส่เสื้อห่านคู่ตัวไม่ถึงร้อยมาแผง
แต่ลูกจ้าง (บางคน)ใส่เสื้อแบรนด์ห้างราคาหลักพันมาทำงาน
“อ่ านจบคุณอาจค้านว่า ”
ความสุขคนเรามันไม่เหมือนกันปะว่ะ ?
คนเราหาเงินมาแล้วไม่ใช้เพื่อให้ตัวเองมีความสุข แล้วจะหาไปทำไม ?
ผมก็จะตอบกลับไปว่า “รวยแล้ว” จะใช้ชีวิตยังไงก็ได้ แต่ถ้ายัง “จน” อยู่จะใช้ชีวิตยังไงก็ได้ (ไม่ได้ !)
ผมจุก เพราะมันจริงถ้ายังไม่รวย ไม่มีสิทธิ์ใช้ชีวิตยังไงก็ได้ !!
เพราะสุดท้าย ความอวด ติดหรู จมไม่ลง มันจะตกเป็นภาระต่อในคนรุ่นหลัง
เหนื่อยหรือยังชีวิต จอมปลอม? ชีวิตที่ต้องสร้างภาพ ถ่ า ยรูปอัพลงเฟ ส ว่า ตัวเองหรู ว่าตัวเองมี
แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังกว่าจะได้มา ต้องเป็นหนี้แค่ไหน
ถ้า.คิดเป็นชีวิตก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้ ถ้าคิดไม่เป็น ก็จงอยู่แบบเดิมต่อไป
ขอบคุณบทความ รูปภาพ
ที่มา : chayend.com